UFASTAR คือบริษัทเว็บไซต์ผู้ให้บริการโดยตรงของ UFABET พนันออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทยและอันดับ 1 ของเอเชีย มีความมั่นคงทางการเงินสูง
เป็นที่ทราบกันว่า ลิเวอร์พูล คือแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่นล่าสุด หลังรอคอยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ยาวนานถึง 30 ปี ขณะที่พวกเขาเขียนหน้าประวัติศาสตร์ให้ตนเองไว้บน ทำเนียบแชมป์ ลีกสูงสุดของอังกฤษ ด้วยการความแชมป์ลีกสมัยที่ 19 ไปครอบได้สำเร็จ แทงบอล
ศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เดินทางมาถึง เกมที่ 37 แล้ว ซึ่ง ลิเวอร์พูล ปิดฉากเกมนัดสุดท้ายในแอนฟิลด์ซีซั่นนี้อย่างสวยงาม ด้วยการอัด เชลซี 5-3 ฉลองแชมป์อย่างสะใจ ก่อนก้าวขึ้นไปรับโทรฟี่แชมป์ที่รอคอยมานานถึง 30 ปีอย่างยิ่งใหญ่
ขณะที่ หงส์แดง เหลือเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล คือบุกถิ่น เซนต์เจมส์พาร์ก ของ นิวคาสเซิ่ล ในคืนวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2563 นี้ โดยความน่าสนใจที่เราจะนำเสนอในวันนี้ นั่นก็คือ ทีมที่สามารถครองแชมป์พรีเมียร์ลีก ตลอดช่วงเวลา 28 ปี ที่ผ่านมา
“ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่ง” (First Division) ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พรีเมียร์ลีก” (Premier League) นับตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 เป็นต้นมา
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เริ่มต้นจากแนวคิดของ รูเพิร์ธ เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) นักธุรกิจสื่อชั่นนำ ที่เสนอแนวทางการแยกตัวออกจาก “ลีกฟุตบอลอังกฤษ” (English Football League-EFL) มาเป็นชื่อ “พรีเมียร์” ที่เราคุ้นชินนั่นเอง
ขณะที่ “ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่ง” นับว่าเป็นลีกฟุตบอลอาชีพ ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งเริ่มการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1888 เป็นต้นมา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นการย้ายมาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาลแรกของ เอริค คันโตน่า ผู้ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะ ของ “ปีศาจแดง” ในเวลาต่อมาChampions 1993/94 ทำเนียบแชมป์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เอริค คันโตน่า ยังเป็นแกนหลักพาทีมคว้าแชมป์ เป็นปีที่สองติดต่อกัน
แบล็คเบิร์น
ผู้จัดการทีม : เคนนี่ ดัลกลิช
อลัน เชียเรอร์ และ คริส ซัตตัน จับคู่ยิงรวมกัน 49 ประตู
ช่วยให้ทัพ “กุหลาบไฟ” คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
“เฟอร์กี้” ลบคำสบประมาท เมื่อพาทีม “ปีศาจแดง”
คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ภายใต้สโลแกน “เฟอร์กี้ เบ็บส์”
เพราะแกนหลักในทีมใช้เด็กสร้างมากมาย เช่น แกรี่/ฟิล เนวิลล์ , เบ็คแฮม , สโคลส์ , บัตต์ , กิ๊กส์ ขณะที่ เอริค คันโตน่า ยังคงเป็นแกนหลักเช่นเดิม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นปีแจ้งเกิดของ เดวิด เบ็คแฮม จากการยิงประตูครึ่งสนามในเกมเปิดฤดูกาล จากนั้นมา “หนุ่มเบ็คส์” ก็กลายเป็นนักเตะ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้
อาร์เซน่อล
ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์
คว้าแชมป์โดยมีคะแนนเหนืออันดับสองอย่าง ทีเด็ดบอลเต็ง 1ตัว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 คะแนน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ทวงแชมป์คืนจาก อาร์เซน่อล
ด้วยคะแนนห่างเพียง 1 คะแนนเช่นกัน พร้อมสร้างประวัติศาสตร์คว้า ทริปเปิลแชมป์ (แชมเปี้ยนส์ ลีก / พรีเมียร์ลีก / เอฟเอคัพ) “เฟอร์กี้” จึงได้รับการประดับยศให้เป็น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในเวลาต่อมา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
คว้าแชมป์ด้วยการทิ้งห่างอันดับสองอย่าง
อาร์เซน่อล ถึง 18 คะแนน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นฤดูกาลที่ เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ในวัย 35 ปี
ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้านักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (PFA)
อาร์เซน่อล
ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์
เธียร์รี่ อองรี มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมคว้าแชมป์
และยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดในลีก ด้วยผลงาน 24 ประตู
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
“เฟอร์กี้” ประกาศจะเลิกคุมทีมหลังจบฤดูกาล 2001-02 แต่ตัดสินใจคุมทีมต่อ และทวงแชมป์คืนจากอาร์เซน่อล ด้วยกำลังสำคัญอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโว โดยยิงไป 25 ประตู
อาร์เซน่อล
ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์
อาร์เซน่อล เขียนประวัติศาสตร์ให้ตนเอง คว้าแชมป์ไร้พ่าย เป็นทีมแรก นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อ “ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่ง” มาเป็น “พรีเมียร์ลีก” โดยไม่แพ้ทีมใดเลย จนได้รับฉายาว่า “อาร์เซน่อล ผู้ไร้เทียมทาน” ( The Invincibles )
เชลซี
ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
โชเซ่ มูรินโญ่ โชว์ผลงานพาทีมเชลซี คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม
เชลซี
ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
โชเซ่ มูรินโญ่ ยังโชว์ความสุดยอดอีกครั้ง จากการพาทัพ สิงห์บูลส์ เชลซี คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นปีที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ฟอร์มสุดยอด คว้านักฟุตบอลยอดเยี่ยม และนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม จากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (PFA)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นปีที่ “ปีศาจแดง” คว้าได้ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ
ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก้าวสู่การเป็นนักเตะระดับโลกอย่างเต็มขั้น ด้วยผลงาน 31 ประตู ครองดาวซัลโวลีก พร้อมคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยม จากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) เป็นปีที่สองติดต่อกัน และ รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปไปครอง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ปีสุดท้ายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก่อนย้ายไป เรอัลฯ
โดยเจ้าตัวเป็นรองดาวซัลโว ด้วยจำนวน 18 ประตู ช่วยให้ “ปีศาจแดง” ผงาดคว้าแชมป์เป็นปีที่สามติดต่อกัน
เชลซี
ผู้จัดการทีม : คาร์โล อันเชล็อตติ
คาร์โล อันเชล็อตติ โชว์ผลงานพาทีมเชลซี คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
“ปีศาจแดง” กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด
ของอังกฤษ มากที่สุดถึง 19 สมัย (ดิวิชั่น 1 เดิม = 7 สมัย, พรีเมียร์ลีก = 12 สมัย) ทำลายสถิติแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย ของ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผู้จัดการทีม : โรแบร์โต้ มันชินี่
ซิตี้ จบฤดูกาลด้วยการมี 89 คะแนน เท่ากับ ยูไนเต็ด จึงเป็นครั้งแรกที่ต้องวัดแชมป์ด้วยผลต่างประตู ได้-เสีย ซึ่ง “เรือใบสีฟ้า” มีผลต่างดีกว่า “ปีศาจแดง” 8 ประตู ใน ทำเนียบแชมป์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ทวงแชมป์คืนจาก แมนฯ ซิตี้ ได้ทันที และ เป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นสมัยที่ 20 พร้อมทั้งปิดฉากการคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังทำทีมนานเกือบ 27 ปี ( พ.ย.1986 – พ.ค.2013 )
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผู้จัดการทีม : มานูเอล เปเยกรินี่
มานูเอล เปเยกรินี่ คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่คุมทีม ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี
เชลซี
ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
เชลซี คว้าแชมป์มาครองได้ก่อนจบฤดูกาล ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 3 นัด
เลสเตอร์ ซิตี้
ผู้จัดการทีม : เคลาดิโอ รานิเอรี
เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างตำนานแชมป์เทพนิยาย ให้ทั่วโลกต้องจดจำ ด้วยการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร (ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1884) หลังจาก เลื่อนชั้นขึ้นมายังลีกสูงสุดและเถลิงแชมป์ได้ทันที
ขณะที่ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ทำผลงานพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในชีวิตการคุมทีมเช่นกัน
เชลซี
ผู้จัดการทีม : อันโตนิโอ คอนเต้
เชลซี เก็บชัยตลอดฤดูกาลได้มากที่สุด (30 เกม) ทำให้ อันโตนิโอ คอนเต้ กลายเป็นกุนซืออีกหนึ่งคนใน ทำเนียบแชมป์ ที่สามารถ พาทีมคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
เป้นฤดูกาลที่ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ พร้อมกับการทำลาย แทงบอลออนไลน์ สถิติอีกมากมาย
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แมนฯ ซิตี้ ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ
โดยเก็บชัยในลีกได้มากสุด (32 นัด) เท่าซีซั่นก่อน และเป็นอีกครั้งที่ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีแต้มมากกว่าทีมอันดับสอง (ลิเวอร์พูล) แค่ 1 แต้ม
พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์เป็นสโมสรแรกในอังกฤษ ที่คว้า 3 แชมป์ในประเทศได้ในฤดูกาลเดียว (พรีเมียร์ลีก / เอฟเอคัพ / ลีกคัพ)
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำเนียบแชมป์
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในรอบ 30 ปี และ เป็นการคว้าแชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล อังกฤษ ด้วยการเหลือเกมการแข้งขันอีก 7 นัดด้วยกัน
โดยลิเวอร์พูลเตะ 31 นัด มี 86 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 23 คะแนน เตะ 31 นัด มี 63 คะแนน
ลิเวอร์พูล 1 สมัย หากรวมถ้วยแชมป์ที่ใช้ชื่อ “ฟุตบอลลีกดิวิชั่นหนึ่ง” 18 สมัย รวมทั้งหมด 19 สมัย
ขณะที่ “หงส์แดง” ลงเล่น เกมนัดที่ 38 ของฤดูกาล บุกชนะ นิวคาสเซิล 1-3 ลิเวอร์พูล
รู้หรือไม่ 7 ทีม ทีสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองตลอด 28 ปี คือทีมใดบ้าง
บอล หวย มวย บาคาร่า สล็อต joker ครบจบที่นี่ UFASTAR356
อัพเดทล่าสุด : 15 มิถุนายน 2023