UFASTAR คือบริษัทเว็บไซต์ผู้ให้บริการโดยตรงของ UFABET พนันออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทยและอันดับ 1 ของเอเชีย มีความมั่นคงทางการเงินสูง
ออฟฟิศซินโดรม การนั่งทำงานนานๆ จนเกิด ออฟฟิศซินโดรม ทำยังไงดี?
“คุณหมอคะ ทำไมดิฉันมีอาการปวดหลัง ปวดคอไม่รู้จักหายสักที งานก็ไม่หนัก วันๆแค่นั่งทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ ไปหาหมอมาหลายที่ตรวจมาก็ไม่พบมีอะไรผิดปกติ หรือว่าดิฉันเป็นโรคประสาทอย่างที่ใครๆว่ากัน”
อาการนี้พบได้บ่อยกับหนุ่มสาวคนเมืองในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานในออฟฟิศ ที่ทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา คนทั่วไปอาจคิดว่าพนักงานออฟฟิศน่าจะสุขสบาย เพราะเห็นได้แต่นั่งทำงานในออฟฟิศหรู ใส่สูทผูกเนคไท ไม่ต้องลำบากตรากตรำ ออกแรงออกเหงื่อใดๆ ใช้แต่คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์สื่อสาร ฟังดูก็น่าจะห่างไกลจากปัญหาเจ็บปวด เคล็ดขัดยอกต่างๆ แต่ความจริงพบว่าชาวออฟฟิศกลุ่มใหญ่กำลังเผชิญกับความทุกข์ทรมานกับอาการต่างๆ มากมาย เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ปวดหัว ปวดเบ้าตา ซึ่งเมื่อค้นหาสาเหตุก็ไม่ได้เกิดจากข้อกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เช่นที่พบเจอในผู้สูงอายุ
กลุ่มอาการออฟฟิศ ซินโดรม เกิดจากการปวดกล้ามเนื้อ ที่รู้สึกคล้ายๆ “เส้นตึง” “ปวดลึกๆ เมื่อยๆ หนักๆ ชาๆ” รู้สึกรำคาญตลอดเวลา สาเหตุของอาการปวดเกิดจากพฤติกรรม และลักษณะการทำงานของคนเมืองในปัจจุบัน ที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ร่วมกับลักษณะท่าทางในการนั่งทำงานที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน ไม่มีการยืดเส้นยืดสาย หรือเปลี่ยนอิริยาบถ ทั้งหมดเป็นตัวการสำคัญของการสะสมความเครียดให้กับกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้เกิดความรู้สึกปวด จนไม่อยากลุกไปทำงานในทุกๆเช้าวันทำงาน อาการปวดในกลุ่มนี้จึงถูกเรียกว่า “ออฟฟิศ ซินโดรม” หรือกลุ่มปัญหาสุขภาพของคนที่ทำงานออฟฟิศ ซึ่งพบได้มากกว่า 50% อาการอาจจะมาในลักษณะเดี่ยวๆ เช่น ปวดหลัง ปวดคอ แต่ที่พบบ่อยกว่า คือ มากันเป็นแพ็คเก็จ อาจมีอาการใดอาการหนึ่งมากน้อยแตกต่างกันไป ทั้งปวดหัว ปวดตา ปวดสะบัก ชามือ หรือเมื่อยตัว ทำให้หลายๆคนเป็นกังวล กลัวเป็นโน่น เป็นนี่ กลัวเป็นมะเร็ง อัมพฤกษ์ อัมพาต จนทำงานไม่ได้ บางคนก็ปวดจนเป็นสาเหตุให้ลาหยุดงานบ่อย ทำให้เกิดปัญหากับเจ้านายและเพื่อนร่วมงานตามมา
เนื่องจากรูปแบบของการทำงานในปัจจุบัน ส่งผลต่อความเจ็บป่วยทางจิตใจและร่างกายของคนวัยทำงานมากทีเดียว จึงมีคนจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาอาการปวดเรื้อรัง อันเนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่รีบเร่ง ทำงานในพื้นที่จำกัด และชีวิตส่วนใหญ่ถูกผูกติดอยู่กับโต๊ะทำงานและจอคอมพิวเตอร์แทบตลอดเวลา พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นที่มาของอาการ “ออฟฟิศซินโดรม” นั่นเอง
ไม่ใช่เพียงแค่ขาดการเคลื่อนไหว ออฟฟิศ กีฬาออนไลน์ ซินโดรมยังหมายรวมไปถึงกลุ่มอาการในเรื่องของระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้ ผลจากการอยู่ในออฟฟิศที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาด รวมไปถึงสารเคมีจากหมึกของเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ และเครื่องพิมพ์เอกสาร ซึ่งวนเวียนอยู่ภายในห้องทำงานอีกด้วย
ออฟฟิศ ซินโดรม คือเป็นกลุ่มของโรคที่เกิดจากลักษณะการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งโต๊ะทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ไม่ได้ขยับลุกไปไหน บางคนต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบตลอดเวลา ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกายหลายระบบ เช่น มีปัญหาปวดกล้ามเนื้อจากการนั่งทำงานนาน อาการชาที่มือเนื่องจากการกดทับเส้นประสาทที่มือ ปวดเสียดท้องจากการทานอาหารไม่ตรงเวลา สมรรถภาพของร่างลดลงเนื่องจากไม่มีเวลาออกกำลังกาย ฯลฯ
ตัวอย่างโรคในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นโรคทางกระดูกและกล้ามเนื้อ ได้แก่ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและพังผืด (Myofascial pain syndrome) ปวดหลังจากท่าทางไม่เหมาะสม (Postural back pain) เส้นประสาทที่ข้อมือถูกกดทับ (Carpal tunnel syndrome) นิ้วล็อค (Trigger finger) นอกจากนี้ระบบอื่นของร่างกายอาจได้รับผลกระทบจากการนั่งทำงานอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน ปวดศีรษะจากความเครียด ภาวะอ้วน เป็นต้น
โดยเบื้องต้นถ้าหากสำรวจตัวเองว่าเริ่มมีอาการออฟฟิศซินโดรม แนะนำให้ใช้วิธีประคบอุ่น รับประทานยาช่วยบรรเทาอาการ เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้อักเสบ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำกายภาพบำบัดในการรักษา อีกทั้งการดูแลตนเองในเบื้องต้นของพนักงานออฟฟิศ อันดับแรกควรเริ่มจากการนั่งให้ถูกวิธีโดยการนั่งตัวตรง พยายามอย่าก้มคอ นั่งให้ศีรษะตรง มังกรแดง ปรับระดับเก้าอี้ให้พอดีกับโต๊ะ ระดับสายตาจะต้องตรงกับจอคอมพิวเตอร์ อย่าให้จอคอมอยู่ต่ำเกินไป ร่วมกับการมีที่พักแขน 2 ข้าง เพื่อที่ไหล่ของเราจะไม่ต้องยกเกร็งอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังควรพักสายตาหลังจากใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน อย่างเช่น การมองออกไป ไกลๆ ในสถานที่โล่งๆ จะทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้น แต่หากใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง แนะนำให้พักการใช้งาน แล้วทำอย่างอื่นเพื่อผ่อนคลาย จากนั้นค่อยกลับมาใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งเวลาว่างหลังจากการทำงานเสร็จแล้วหากจะให้ดีควรหาเวลาออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อมีการผ่อนคลาย อาทิ การวิ่งจ็อคกิ้ง , ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ เพราะในแต่ละวันหากกล้ามเนื้อต้องใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง จะทำให้เกิดการสะสม และกล้ามเนื้อจะเกร็งมากขึ้นเรื่อยๆ จนก่อให้เกิดออฟฟิศซินโดรมได้
เกิดจากการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งซ้ำๆเป็นเวลานาน หรืออยู่ในท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่องแล้วยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่นได้ เช่น
พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม (Office Syndrome)
ได้แก่ ความเครียด ทานอาหารไม่ตรงเวลา ทำงานหนักเกินไป และไม่ออกกำลังกาย
การรักษาด้วยตัวเอง
– ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่ควรนั่งติดกันเป็นเวลานาน ปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม
– การยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
– การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง
การรักษาทางกายภาพบำบัด
– การรักษาทางกายภาพบำบัด
– การรักษามือนักกายภาพบำบัด (Manual Technique)
– การรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น
การออกกำลังกายเพื่อการรักษา (Therapeutic exercise)
การรับคำแนะนำอื่นๆ เช่น การยืดกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม การลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ไม่จำเป็น
แนวทางการรักษาทางด้านอื่น ๆ เช่น การนวด การฝังเข็ม การรับประทานยา เล่นบาคาร่าออนไลน์ได้ที่ ufastarbet
1. กินยา
วิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่เห็นผลได้เร็วที่สุดโดยที่กินปุ๊ป อาการของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใน 1 วัน โดยปกติแล้วยาแก้ไขอาการออฟฟิศ ซินโดรมจะมีอยู่ 2 อย่างคือยาแก้ปวดและยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจแล้วให้หมอสั่งจ่ายยาก็ได้ (แต่วิธีนี้จะค่อนข้างแพง) ทางเลือกก็คือไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยาอย่างเช่น Boots หรือ Watson ราคาจะถูกกว่าค่อนข้างมาก
ข้อด้อยของวิธีนี้ก็คืออาการจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมภายใน 3-4 วันถ้าม่กินยา
2. ฉีดยาแก้ปวด
วิธีนี้เป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็วที่สุดตั้งแต่ทดสอบมา อาการของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายในไม่กี่ชั่วโมง โดยปกติแล้วเวลาไปโรงพยาบาลหมอจะไม่ค่อยแนะนำวิธีนี้ ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะครวญครางและคุณบอกว่าคุณทนไม่ได้แล้ว
ข้อด้อยของวิธีนี้ก็จะคล้ายกับวิธีที่แล้ว ฤทธิ์ของยาจะอยู่แค่อย่างมากก็แค่ 1 อาทิตย์
3. ฝังเข็มและครอบแก้ว
2 วิธีนี้เป็น 2 วิธีที่มักจะถูกทำคู่กัน ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้ดูเหมือนจะเจ็บแต่จริงๆ แล้วไม่เจ็บสักเท่าไหร่
ฝังเข็มช่วยให้กล้ามเนื้อคลาย ส่วนครอบแก้วช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
ข้อด้อยของการฝังเข็มคือทุกครั้งที่เข็มแทงเข้าไปที่ตัว จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ (ไม่เหมาะกับคนกลัวเข็ม) ส่วนข้อด้อยของการครอบแก้วคือแผ่นหลังของคุณจะมีรอยแดงกลมๆ 10 กว่าที่เป็นเวลาอาทิตย์กว่าๆ เพราะฉะนั้นคนที่ต้องถอดเสื้อบ่อยๆ (เช่นตอนอาบน้ำที่ฟิตเนส)
4. ฝังเข็มแห้ง (Dry Needling)
หลักการทำงานของ Dry Needling มีอยู่ 3 ขั้นตอนคือ 1. แทง 2. ควง 3. ทะลวง (สิ่งที่นักฝังเข็มทำก็คือแทงเข็มลงไปในพื้นที่ที่เป็น Office Syndrome จากนั้นก็ควงและทะลวงเพื่อให้กล้ามเนื้อตรงส่วนนั้นคลายตัว เมื่อเทียบกับการฝั่งเข็มแบบจีน (Acupuncture) แล้ว อย่างแรกที่รู้สึกเลยคือเจ็บกว่ามาก แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่ามากเช่นเดียวกัน
5. ทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัดก็คือการที่นักกายภาพจะสอบถามอาการและทำการนวดจุดที่คุณปวดพร้อมกับดัดแขนดัดขาและการประคบร้อน บางครั้งอาจจะมีการฉายแสง UV ควบคู่ไปด้วย
จากที่เคยทำมา การทำกายภาพบำบัดจะให้ผลลัพธ์คล้ายๆ กับการฝังเข็มและครอบแก้ว คือรู้สึกดีในช่วงที่ทำเสร็จ แต่พอเวลาผ่านไปหรือพอครั้งถัดๆ ไปก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่นัก
ข้อควรระวัง: การนวดไทยแบบที่ไปนวดที่ Heathland ช่วยให้สบายตัวแต่ไม่ได้ช่วยให้อาการออฟฟิศซินโดรมดีขึ้น (เคยบอกให้หมอนวดเน้นจุดที่ปวดหนักๆ ซึ่งพอนวดเสร็จแล้วอาการกลับแย่กว่าเดิมอีก)
วิธีการแก้ไขแบบระยะยาว
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เห็นผลช้าแต่เห็นผลนาน แนะนำให้ทำให้บ่อยๆ
1. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายที่ได้ผลดีที่สุดในการบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมคือการว่ายน้ำและโยคะ
การว่ายน้ำช่วยให้ได้ขยับทุกสัดส่วนของร่างกาย (โดยเฉพาะในส่วนที่ปวดอย่างไหล่และบ่า) ซึ่งหลังจากที่ว่ายมาได้ 1-2 เดือน (สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง) อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การว่ายน้ำเป็นประจำไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ 1. ต้องหาเวลา 2. ต้องหาที่ที่มีสระน้ำ
โยคะ ข้อดีของการเล่นโยคะคือสามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยปกติถ้าวันไหนมีเวลา (และความขี้เกียจไม่เข้าครอบงำ) ในช่วงก่อนนอน เปิดแอปพลิเคชันชื่อว่า Daily Yoga และก็เล่นตามสัก 15-20 นาที
วิธีที่ไม่แนะนำให้ทำเลยก็คือการยกเวทในตำแหน่งที่ปวด เพราะว่าถ้าตรงไหนปวดมากๆ ต้องพยายามเล่นให้หนัก ต้องพยายามซ้ำตรงนั้นเข้าไป เส้นที่ตึงจะได้คลาย แต่พอลองทำจริงๆ มันไม่หาย แถมเจ็บหนักกว่าเดิมอีก เพื่อนที่พอรู้เรื่องการทำกายภาพบำบัดเคยแนะนำ ถ้าตรงไหนปวดมาก อย่าไปซ้ำให้หนัก ต้องเล่นเบาๆ อย่าหักโหม ไม่อย่างนั้นอาการจะยิ่งเป็นหนัก
9 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันโรคออฟฟิศซินโดรม
คอมพิวเตอร์
โต๊ะ-เก้าอี้
เมื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอุปกรณ์สำนักงานที่ต้องใช้แล้ว ควรให้ความสำคัญเรื่องออกกำลังกายด้วย โยคะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมมาก เพราะยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ดี
อาการของออฟฟิศซินโดรม หากปล่อยไว้โดยไม่บำบัดรักษา หรือไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ก็อาจทำให้มีอาการสะสมเรื้อรัง และเกิดอันตรายตามมาได้ เช่น
วิธีทำ:ยืนแยกปลายเท้าเท่าช่วงหัวไหล่ มือทั้ง2ข้างจับขอบเก้าอี้ ยกปลายเท้าหนึ่งข้างถอยไปแตะไว้ด้านหลังให้ยาวได้มากที่สุดเท่าที่จะไหว ทำสลับกัน 10 ครั้ง หรือเท่าที่จะไหว
วิธีทำ:ท่านี้หาอุปกรณ์อะไรในสำนักงานมายึดจับไว้ ยืนตัวตรงแล้วยกขาหนึ่งข้างพับขึ้นไปด้านหลัง แล้วใช้มือหนึ่งข้างจับที่ข้อเท้าดึงให้รู้สึกตึงที่หน้าขา ยืดค้างไว้ 10 วินาที แล้วสลับข้าง
วิธีทำ:ท่าเขย่งน่อง ท่านี้เป็นท่าที่ช่วยลดการเกิดอาการตะคริวได้ เพียงให้ปลายเท้าจิกพื้นไว้แล้วยกส้นเท้าขึ้นมาให้สูงมากที่สุด โดยให้ใช้เวลายืดและผ่อนส้นเท้าปลายเท้าให้ไหลลื่น อย่ารีบทำจนเกินไป
วิธีทำ:ท่านี้ให้ลองหาผ้าหรือไม้ยาวๆมาอันนึง จับส่วนปลายของทั้ง 2 ด้าน ยืดแขนให้ตึงมากที่สุด แล้วยกจากด้านหน้าผ่านบนหัวจนไปถึงด้านหลัง แล้วทำแบบเดียวกันจากด้านหลังยกผ่านหัวมากด้านหน้า
วิธีทำ:ท่านี้ให้หาขอบโต๊ะ หรือวัตถุอะไรก็ได้ที่อยู่ในระดับช่วงหัวไหล่ ยืนเว้นระยะห่างจากวัตถุ 2 ช่วงไหล่ แล้วใช้มือทั้ง 2 ข้างจับขอบโต๊ะ กดช่วงลำตัวลงด้านล่างให้ได้มากที่สุดแล้วข้างไว้ 10 วินาที
วิธีทำ:ท่านี้ให้ยกขาหนึ่งข้างมาไขว่พาดสลับกับอีกข้างหนึ่ง แล้วนำแขนทั้ง 2 ข้างมากอดขาข้างที่พาดไว้แน่นๆให้เข่าชิดหน้าอก ท่านี้จะรู้สึกตึงที่สะโพกด้านหลังนะคะ ทำค้างไว้ 10 วินาทีแล้วสลับข้าง
วิธีทำ:ให้เหยียดแขนหนึ่งข้างออกไปฝั่งตรงข้าม แล้วใช้อีกข้างดึงศอกเข้ามาหาตัวให้ได้เยอะที่สุด แล้วนับค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วสลับข้าง
วิธีทำ:เหยียดแขนไปด้านหน้าหนึ่งข้าง หงายข้อมือให้ชี้ขึ้นด้านบน ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับปลายนิ้วมือหักลงด้านล่าง ยืดแล้วนับค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วสลับข้าง
วิธีทำ:ใช้มือหนึ่งข้างดึงคอให้เอียงไปข้างเดียวกันกลับแขนที่ดึง ยืดค้างไว้สัก 5-10 วินาที แล้วสลับข้าง
หากมีเวลาควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อตั้งแต่งหัวจรดเท้า อิสระเลยท่าอะไรก็ได้ที่นึกออก เพราะโดยมากการทำงานที่นั่ง หรือยืนเป็นเวลานาน เราจะมักเกิดอะไรเมื่อยตึงขึ้นโดยธรรมชาติอยู่แล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตามการป้องกันดีกว่าการรักษา และการรักษาที่เห็นผลดีที่สุดก็คือการบำบัดรักษาด้วยตัวเอง เพราะออฟฟิศซินโดรมเกิดจากพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะในชีวิตประจำวันอย่างเคยชิน บาคาร่า ดั้งนั้นการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน การผ่อนคลายความเครียด จะช่วยให้ไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม
บทความเพิ่มเติม : แทงบอลออนไลน์UFABET
อัพเดทล่าสุด : 13 ตุลาคม 2022